วันพุธที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2560

ศิลปะการแต่งกาย

ความหมายของการแต่งกาย
              การแต่งกาย หมายถึง การตกแต่งร่างกายด้วยเสื้อผ้า และเครื่องประดับทุกอย่างตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า หากรู้จักเลือกเครื่องแต่งกายที่เหมาะสม
กับตนเอง จะทำให้มีบุคคลมีบุคลิกภาพที่ดี 
นอกจากต้องแต่งกายให้เหมาะสมกับตนเองแล้ว ต้องเหมาะสมกับกาละ คือเหมาะสมกับเวลากลางวัน
กลางคืน งานโอกาสต่าง ๆ และเหมาะสมกับเทศะคือเหมาะสมกับสถานที่ เช่น สถานที่ราชการ โรงเรียน สถานที่ท่องเที่ยว โรงภาพยนตร์
ห้างสรรพสินค้า เป็นต้น
ความสำคัญของการแต่งกาย
การแต่งกายนอกจากจะมีวัตถุประสงค์เพื่อความสวยงาม เพื่อเสริมสร้างบุคลิกภาพ และช่วยสร้างความประทับใจให้เกิดแก่ผู้พบเห็นแล้ว
การแต่งกายที่ดีนั้นยังเป็นสิ่งแรกที่จะสร้างความพอใจ ความสนใจ ความเชื่อถือ ความศรัทธาและความไว้วางใจให้แก่ผู้พบเห็นได้
 ดังนั้น การแต่งกาย
จึงมีความสำคัญ ดังนี้
1. เพื่อป้องกันอันตรายจากสภาพแวดล้อม
       การสวมใส่เสื้อผ้าให้เหมาะสมกับสภาพอากาศ ได้แก่ อากาศร้อน อากาศหนาว ลักษณะการประกอบอาชีพโดยเฉพาะผู้ที่ทำงานประเภท
ต่าง ๆ ที่อาจเกิดอันตรายได้ระหว่างการปฏิบัติงาน ได้แก่ ชุดป้องกันของพนักงานดับเพลิง เครื่องแบบของข้าราชการ ทหาร ตำรวจ เป็นต้น 

                พนักงานดับเพลิงสวมใส่เสื้อผ้าที่เหมาะกับลักษณะการปฏิบัติงาน

              2. เพื่อบ่งบอกถึงเชื้อชาติ วัฒนธรรมและขนบธรรมเนียม
       เมื่อมนุษย์มีสติปัญญามากยิ่งขึ้น มีการอยู่รวมกันเป็นกลุ่มชนและจากการอยู่ร่วมกันเป็นหมู่คณะ จึงจำเป็นต้องมีระเบียบและกฎเกณฑ์ในอันที่จะอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขโดยไม่มีการรุกรานซึ่งกันและกัน จากการปฏิบัติที่กระทำสืบต่อกันมานี้เองในที่สุดได้กลายมาเป็นขนบธรรมเนียม ประเพณีและวัฒนธรรมขึ้นในสมัยโบราณ เมื่อมีการเฉลิมฉลองประเพณีสำคัญต่าง ๆ เช่น การเกิด การตายการเก็บเกี่ยวพืชผล หรือเริ่มมีการสังคมกับกลุ่มอื่น ๆก็จะมีการประดับหรือตกแต่งร่างกายให้เกิดความสวยงามด้วยเครื่องประดับต่าง ๆ เช่นขนนก หนังสัตว์ หรือทาสีตามร่างกาย มีการสักหรือเจาะบางครั้งก็วาดลวดลายตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เพื่อแสดงฐานะหรือตำแหน่งซึ่งในปัจจุบันก็ยังมีหลงเหลืออยู่  ส่วนใหญ่ก็จะเป็นชาวพื้นเมืองของประเทศต่าง ๆ
                    การแต่งกายของชน เผ่าไท ในจังหวัดศรีสะเกษ คือ ส่วย เขมร เยอ ลาว
              3. เพื่อแสดงสถานะทางสังคม
    สถานะภาพทางเศรษฐกิจและสังคมของมนุษย์ แต่ละบุคคลย่อมไม่เหมือนกันจึงทำให้เกิดการแต่งกายที่แตกต่างกันออกไป สังคมทั่วไปมีหลายระดับชนชั้นมีการแบ่งแยกกันตามฐานะทางเศรษฐกิจ เช่น ชนชั้นระดับเจ้านาย ชาวบ้าน และกรรมกรการแต่งกายสามารถบอกได้ถึงสถานภาพทางสังคมของผู้สวมใส่ได้อีกด้วยเช่น ระดับการศึกษา ฐานะความเป็นอยู่
การแต่งกายนักเรียนที่บ่งบอกถึงระดับการศึกษา

4. เพื่อบ่งบอกถึงอุปนิสัยของผู้แต่ง
                การแต่งกายสามารถบ่งบอกอุปนิสัยของผู้แต่งกายได้ว่ามีลักษณะอย่างไร เช่น มีความประณีตการรักสวยรักงาม ความเป็นคนพิถีพิถัน รู้จักกาลเทศะ เป็นต้น
หลักสำคัญในการแต่งกาย
              1ความสะอาด (Clean)
                ความสะอาดของเครื่องแต่งกายมีส่วนสำคัญในการเสริมสร้างบุคลิกภาพอย่างมาก หากบุคคลที่แต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่มีราคาแพง แต่ขาดความสะอาด ทำให้ดูหมดคุณค่าและเป็นการทำลายบุคลิกภาพและความน่าเชื่อถือลง ดังนั้นทุกคนจึงควรให้ความสำคัญกับการรักษาความสะอาดของเสื้อผ้า พร้อมทั้งทะนุถนอมเนื้อผ้าให้อยู่ในสภาพดีอยู่เสมอ
การแต่งกายสะอาด เป็นการเสริมสร้างบุคลิกภาพ
            

              2ความสุภาพเรียบร้อย (Polite)
      ความสุภาพเรียบร้อยในการแต่งกาย ควรเริ่มตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า เช่น ทรงผม สีผม เสื้อผ้า ได้แก่ สี แบบ ขนาด รองเท้า การเลือกเครื่องประดับ กระเป๋าถือ ควรเลือกให้เหมาะสมกับตนเอง ไม่ควรตามแฟชั่น
 การให้ความสำคัญในการเลือกเสื้อผ้าที่เหมาะสมกับตนเอง
             3. ความถูกต้องตามโอกาสและกาลเทศะ (Be temperate)
                       การแต่งกายให้เหมาะสมกับโอกาส และกาลเทศะเป็นการให้เกียรติตนเอง และผู้อื่น ช่วยให้เกิดความมั่นใจในการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ แต่ไม่ว่าจะเป็นโอกาสใดก็ตาม ผู้แต่งควรมีพื้นฐานที่ความสุภาพเรียบร้อย ในการแต่งกายเป็นหลัก ซึ่งหมายถึงทั้งหมดตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า ดังนั้นผู้สวมใส่จึงควรพิจารณาว่าตนเองจะไปทำอะไร ที่ไหน อย่างไร เพื่อเลือกเสื้อผ้าให้เหมาะสมกับโอกาส เช่น
การไปติดต่อธุรกิจ ควรให้ความสำคัญกับความเรียบร้อย และความสะอาดของเสื้อผ้าและร่างกายเป็นอย่างยิ่ง ควรใส่เสื้อสูทเพื่อให้ดูมีความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น
การแต่งกายโดยการใส่สูทเพื่อติดต่อธุรกิจ ทำให้ดูน่าเชื่อถือมากขึ้น
- การไปงานเลี้ยง ควรพิจารณาลักษณะงาน สถานที่จัดงานว่ามีความหรูหรามากน้อยเพียงใด ถ้าเป็นงานเลี้ยงตอนกลางวันของบริษัท อาจใส่เสื้อผ้าชุดทำงานกลางวันปกติ โดยเสริมเครื่องประดับให้ดูสดใสขึ้น สำหรับงานกลางคืน ควรสวมเสื้อผ้าที่ดูหรูหรามากขึ้น แต่งหน้าเข้มมากขึ้นและสวมเครื่องประดับพอสมควร
การไปงานเลี้ยงกลางคืน ควรให้ความสำคัญตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า

 การไปเล่นกีฬา ควรสวมเครื่องแต่งกายที่ถูกต้องเหมาะสม เช่น เสื้อทีเชิ้ต กางเกงวอร์ม รองเท้าผ้าใบ ซึ่งนอกจากจะเหมาะสมแล้ว ยังช่วยให้มีความคล่องตัวและลดอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้
              4. ความเหมาะสมกับอาชีพ (Appropriate to the profession)
                     การแต่งกายให้เหมาะสมกับอาชีพเป็นสิ่งที่ควรคำนึงถึงอย่างยิ่ง เพราะบางอาชีพเป็นอาชีพที่เสี่ยงกับอันตรายจึงมีชุดเฉพาะที่ใส่ในการปฏิบัติงาน เช่น พนักงานดับเพลิง พนักงานไฟฟ้า หรือบางอาชีพต้องการความน่าเชื่อถือ ก็ควรเลือกเสื้อผ้าให้เหมาะสมเพื่อเป็นการเสริมสร้างบุคลิกภาพ เช่น ครู แพทย์ พนักงานธนาคาร เป็นต้น
 การแต่งชุดเฉพาะสำหรับพนักงานทำให้ดูสวยงาม น่าเชื่อถือ

   5. ความเหมาะสมกับวัย (Age appropriate)
                               การแต่งกายนั้น ผู้แต่งกายควรคำนึงถึงความเหมาะสมกับอายุเป็นองค์ประกอบ ดังนี้
     5.1 วัยเด็ก เสื้อผ้าควรจะมีสีสันสดใส รูปแบบน่ารัก มีลายการ์ตูน
 เสื้อผ้าที่เหมาะสำหรับเด็ก

5.2 วัยรุ่น เสื้อผ้าควรมีสีสันอ่อน ๆ แบบของเสื้อผ้าเป็นไปตามลักษณะรูปร่างและความชอบของแต่ละคน ไม่ควรสวมเสื้อผ้าที่เปิดเผย หรือรัดรูปจนเกินไป โดยเฉพาะเสื้อหรือกางเกงที่รัดรูปมาก ๆ อาจเกิดผลเสียต่อสุขภาพได้ ไม่ควรใส่เสื้อผ้าที่มีราคาแพงเกินความจำเป็น และไม่ควรใส่เครื่องประดับที่ดูหรูหรา ซึ่งนอกจากดูไม่เหมาะสมกับวัยแล้ว ยังอาจเป็นอันตรายต่อตนเองอีกด้วย สำหรับรองเท้าควรเป็นรองเท้าที่สวมใส่สบาย สะดวก คล่องตัว เหมาะกับกิจกรรม และไม่ควรซื้อรองเท้าที่แพงเกินไป เนื่องจากในวัยรุ่นเป็นวัยที่มีการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายอย่างรวดเร็ว
 เสื้อผ้าที่เหมาะสำหรับวัยรุ่น

5.3 วัยผู้ใหญ่ เสื้อผ้าที่เหมาะสมกับวัยผู้ใหญ่ควรมีสีสุภาพเรียบร้อย เพื่อให้ดูสง่างาม เหมาะสมกับวัยและบุคลิกภาพของตนเอง
 เสื้อผ้าที่เหมาะสำหรับวัยผู้ใหญ่

6. ความเหมาะสมกับรูปร่าง (The shape)
            ศิลปะการแต่งกายที่ช่วยส่งเสริมบุคลิกภาพและภาพลักษณ์ได้เป็นอย่างดี คือการแต่งกายให้เหมาะสมกับรูปร่างและสัดส่วนของตน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เสื้อผ้าที่แต่งช่วยอำพรางจุดบกพร่องของรูปร่าง พร้อมทั้งส่งเสริมจุดเด่นของรูปร่างทำให้เกิดความเหมาะสม สวยงาม อย่างลงตัว

การแต่งกายในโอกาสต่าง ๆ
            ในชีวิตประจำวันมนุษย์จะมีกิจกรรมต่าง ๆ ที่แตกต่างกันออกไป บางคนอยู่แต่ในบ้านไม่ค่อยได้พบผู้คนจึงอาจไม่ต้องพิถีพิถันเรื่องเครื่องแต่งกายมากนัก ในขณะที่บางคนต้องออกไปทำงาน     นอกบ้าน ก็จะต้องมีการพิจารณาเลือกเสื้อผ้าให้เหมาะสมกับสถานที่ทำงานของตนและเหมาะกับลักษณะงาน ดังจะกล่าวต่อไปนี้
            ชุดทำงาน ผู้ที่ออกไปทำงานนอกบ้านสามารถแบ่งสถานที่ทำงานได้เป็น 2 ประเภท ได้แก่ ทำงานในสถานที่ราชการหรือเรียกว่า ข้าราชการ และทำงานในบริษัทเอกชน หรือที่เราเรียกว่า ทำงานออฟฟิศ การแต่งกายของข้าราชการจะต้องเน้นไปที่ความสุภาพ เรียบร้อย กระโปรงไม่สั้นมาก และ    คอเสื้อก็จะต้องไม่ลึกจนเกินไป ลายเสื้อไม่ต้องฉูดฉาดจนทำให้คนต้องมองเหลียวหลัง ทั้งนี้ควรเลือก   แต่งกายให้เข้ากับบุคลิกภาพของตนจะเหมาะสมกว่า ส่วนข้าราชการที่มีเครื่องแบบแน่นอนที่ใช้บังคับ เช่น ทหาร ตำรวจ พยาบาล จะไม่สามารถเลือกแบบและสีสันของเครื่องแต่งกายได้ ส่วนสาวออฟฟิศจะเลือกแต่งกายได้อย่างอิสระกว่าข้าราชการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบันสาวออฟฟิศสามารถสวมกางเกงไปทำงาน บางแห่งอนุญาตให้เป็นกางเกงยีนก็ได้ สาวออฟฟิศจึงต้องพิจารณาเลือกเสื้อผ้าที่เหมาะสมกับตนเองเพื่อเสริมให้ตนเองนั้นดูดีขึ้น และที่สำคัญต้องอำพรางสิ่งที่บกพร่องของร่างกายได้เป็นอย่างดี       ชุดกลางวันธรรมดา เป็นชุดที่ใส่สำหรับการออกไปเดินซื้อของ การออกไปพบปะเพื่อนฝูง เช่นนี้สามารถเลือกสวมใส่ได้อย่างอิสระ และเหมาะสมกับตนเอง หากไปติดต่อสถานที่ราชการอาจเลือกชุดที่เรียบร้อยกว่า
ชุดสำหรับงานเลี้ยง งานกลางคืน ควรเลือกชุดที่เป็นผ้านิ่ม ๆ ซึ่งจะช่วยให้การเคลื่อนไหวสวยงามขึ้น สีที่เลือกควรเป็นสีที่สดใส ชุดสำหรับงานเลี้ยงหรืองานกลางคืนไม่เหมาะที่จะเป็นผ้าแข็งกระด้าง เพราะดูไม่เหมาะสมกับบุคลิกของคนไทย นอกจากบางคนเท่านั้น ชุดกลางคืนสามารถสร้างความเก๋ไก๋ได้ด้วยสิ่งประกอบ คือ ผ้าพันคอ ผ้าพันเอว เข็มขัด หรือเครื่องประดับ ประเภทสร้อยคอ    เข็มกลัด เท่าที่โอกาสอำนวย
สรุปสาระสำคัญ
ความสำคัญของการแต่งกายมีด้วยกันหลายประการ เช่น เพื่อป้องกันอันตราย เห็นได้จากการ ใส่เสื้อผ้าเพื่อป้องกันความหนาว การใส่เสื้อแขนยาวเพื่อป้องกันแสงแดด หรือแต่งกายเพื่อดึงดูด
ความสนใจและความสวยงาม แต่งกายเพื่อแสดงฐานะทางสังคม เช่น เครื่องแบบนักศึกษา ข้าราชตำรวจ หรือการแต่งกายด้วยเสื้อผ้าและเครื่องประดับราคาแพงก็สามารถบ่งบอกถึงฐานะทางสังคมได้เช่นกัน 
นอกจากนี้การแต่งกายยังบ่งบอกถึงขนบธรรมเนียมและความสุภาพ ซึ่งแต่ละท้องถิ่นก็มีลักษณะ
แบบแผนของตนเอง อย่างเช่นธรรมเนียมตะวันตกถ้าเป็นงานพิธีการจะต้องแต่งกายครบเครื่อง 
สวมถุงน่อง รองเท้า หมวก ถุงมือ แต่ถ้าเป็นธรรมเนียมไทยจะไม่สวมหมวก
การแต่งกายเป็นมารยาททั่ว ๆ ไปซึ่งทุกคนต้องปฏิบัติเหมือนกันตามแต่โอกาสที่เหมาะสม เช่น แต่งกายไปทำงาน ไปวัด ทำบุญ ไปเล่นกีฬา และงานพิธีต่าง ๆ หรือการแต่งกายที่อยู่ในเครื่องแบบของนักเรียน นักศึกษา ทหาร ตำรวจ บริษัทห้างร้านที่กำหนดให้พนักงานแต่งกาย เป็นต้น หากบุคคลใดสามารถปฏิบัติได้ตามกฎระเบียบที่กำหนดถือว่าเป็นผู้มีมารยาทในการแต่งกายที่ดี

1 ความคิดเห็น:

  1. Best 5 casinos to play Blackjack - Dr. Maryland
    casino, and there are 서울특별 출장마사지 online blackjack casinos available. Best Blackjack. Best Blackjack Casino. casino, and there are online 천안 출장안마 blackjack 출장샵 casinos 안양 출장마사지 available. 세종특별자치 출장마사지

    ตอบลบ